ไปที่ส่วนเนื้อหาหลัก สมอ
สมอ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

ซานเซียนไถ

ซานเซียนไถ

ซานเซียนไถตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอเฉิงกง จังหวัดไถตง โดยมีโครงสร้างที่เกิดจากเกาะเล็กนอกชายฝั่งและแนวปะการังชายฝั่งทะเล บนเกาะมีหินรูปร่างประหลาดกระจายอยู่ทั่วไป ในจำนวนนี้มีหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน ตามตำนานกล่าวว่าเทพเจ้าลวี่ต้งปิน หลี่ขาเหล็กและนางฟ้าเหอ เคยมาเยือนที่เกาะแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อซานเซียนไถ
ลักษณะทางธรณีวิทยาของเกาะซานเซียนไถเป็นการร่วมตัวกันของหินภูเขา เดิมเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล แต่เนื่องจากถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนขาด กลายเป็นเกาะกลางทะเล สร้างสะพานแปดโค้งสำหรับคนเดินข้ามเสร็จสิ้นในปี พ.ศ.2530 สะพานรูปคลื่นที่ดูราวกับมังกรใหญ่ที่แหวกว่ายในทะเล ที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะซานเซียนไถกับเกาะไต้หวัน และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของชายฝั่งทะเลตะวันออกไปแล้ว
เกาะซานเซียนไถมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 220,000 ตารางเมตร จุดสูงสุดเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 77 เมตร ออกแบบให้มีเส้นทางเดินเท้ารอบเกาะ ใช้เวลาเที่ยวรอบเกาะประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งสี่ด้านของเกาะล้อมรอบด้วยแนวปะการัง จากการกัดเซาะของลมและน้ำทะเลทำให้เกิดร่องทะเลกัดเซาะ หลุมกุมภลักษณ์ เกาะหินโด่งและหลุมบ่อที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลเป็นต้น ทำให้การท่องเที่ยวบนเกาะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

เวลาทำการ ทุกวัน 08:30-17:00
การเดินทาง โดยสารรถไต้หวัน ทัวร์ริส ชัทเทิล สายชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือรถฮวาเหลียนบัส รถติ่งตงบัส ไปลงที่ “ป้ายซานเซียนไถ”
เสี่ยวเย่หลิ่ว

เสี่ยวเย่หลิ่ว

เสี่ยวเย่หลิ่วตั้งอยู่ในทะเลทางด้านเหนือของท่าเรือประมงฟู่กั่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ทางใต้สุดของชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและลักษณะทางธรณีวิทยาที่คล้ายกับเย่หลิ่วในเป่ยกวน ทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่า “เย่หลิ่วน้อย”
ที่นี่มีแนวปะการังที่คดเคี้ยว มีต้นไม้ขึ้นอยู่ตามแนวโขดหิน ทำให้มีทัศนียภาพที่พิเศษ ในวันที่อากาศดี จากเสี่ยวเย่หลิ่วมองไปทางทิศตะวันออก สามารถมองเห็นเกาะกรีนที่อยู่ห่างออกไป 33 กิโลเมตรได้อย่างชัดเจน และยังสามารถนั่งเรือจากท่าเรือประมงฟู่กั่งไปยังเกาะกรีน และเกาะหลานอวี้ได้อีกด้วย
ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ที่สอดคล้องไปตามจังหวะคลื่นในทะเลและการเปลี่ยนแปลงท้องฟ้า เป็นสถานที่เที่ยวชมหินรูปร่างแปลก นั่งเล่นพักผ่อน ชมและฟังเสียงคลื่น ชมปลาที่แหวกว่ายในทะเล และชมปูเสฉวน
ที่ทำการเขตชมวิวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภายในเสี่ยวเย่หลิ่ว ที่มีห้องนิทรรศการแนะนำสภาพทางธรณีวิทยาของเสี่ยวเย่หลิ่ว ภายในเขตชมวิวจัดให้มีพื้นที่ตั้งแคมป์ ร้านค้าเป็นต้น เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการทำความเข้าใจในทัศนียภาพโดยรวมของเสี่ยวเย่หลิ่ว

เจียลู่หลาน

เจียลู่หลาน

เจียลู่หลานมีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ศาลาพักผ่อน สถานีบรรยายให้ความรู้และระเบียงชมวิว ไม่เพียงแต่ใช้เป็นจุดพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก และยังเหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่ถ่ายรูป นักท่องเที่ยวสามารถรับฟังเสียงคลื่น รับลมทะเลที่ชายหาด พักผ่อนอย่างมีความสุขไปกับแสงตะวันที่สาดส่องมา
นอกจากชมทิวทัศน์ตามธรรมชาติแล้ว ภายในเขตชมวิวมีผลงานศิลปะที่ทำจากขอนไม้ลอยน้ำจำนวนไม่น้อย แม้แต่สิ่งของที่ใช้ตกแต่งศาลาพักผ่อนก็สามารถเห็นได้ถึงร่องรอยของขอนไม้ลอยน้ำ
ตลาดนัดงานหัตถกรรมเจียลู่หลานที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ที่ร่วมมือกับกลุ่มผู้รักงานศิลปะในเขตชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่มารวมตัวในรูปแบบของตลาดนัดที่เจียลู่หลาน โดยให้ความสำคัญต่อการแสดงผลงานที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ รวมถึงการแสดงนิทรรศการภาพยนตร์กลางแจ้ง การสับเปลี่ยนแสดงดนตรีของวงดนตรีในท้องถิ่น ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่น เดินเที่ยวที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้แบ่งปันพร้อมสัมผัสธรรมชาติ และรูปแบบชีวิตบนเกาะที่เรียบง่าย สร้างสรรค์และเป็นมิตร

เวลาทำการ เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน
สายน้ำที่ไหลย้อนสู่เบื้องสูง

สายน้ำที่ไหลย้อนสู่เบื้องสูง

เมื่อพูดถึงสายน้ำที่ไหลย้อนสู่เบื้องสูง นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไถตงมักจะมาเที่ยวที่นี่ เป็นร่องน้ำคลองชลประทานเพื่อการเกษตรที่อยู่ห่างจากตูหลานประมาณ 1.8 กิโลเมตร ที่มีความขัดแย้งกับแรงดึงดูดของโลก สายน้ำไหลย้อนสู่เบื้องสูง ที่ข้างร่องน้ำชลประทานมีป้ายหินแกะสลัก “สิ่งมหัศจรรย์” ซึ่งความจริงแล้วมีหลักการง่ายๆ คือที่ข้างร่องน้ำมีถนนสายเล็กๆ สายหนึ่งที่เป็นทางลาดลงเขา แต่ร่องน้ำไม่ได้ลาดลง แต่กลับมีความลาดขึ้นเล็ก ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวยื่นอยู่ในจุดที่ต่ำกว่า และมองดูร่องน้ำไปพร้อมๆ กับมองดูถนน ก็จะดูราวกับว่าสายน้ำไหลสู่เบื้องบน เป็นทัศนียภาพทางภูมิศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์
นอกจากทัศนียภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกใหม่แล้ว ศูนย์พักผ่อนยังมีร้านค้า ลานจอดรถ และห้องน้ำสาธารณะไว้อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

สือทีผิง

สือทีผิง

สือทีผิงตั้งอยู่ตอนปลายใต้สุดของอ่าวสือที อำเภอฟงปิน จังหวัดฮวาเหลียน พื้นที่ทั้งหมดเป็นลานชายฝั่งทะเลที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีการถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างรุนแรง ทำให้เกิดลานทะเลกัดเซาะ แนวปะการังที่ถูกดันตัวขึ้นมา ร่องทะเลกัดเซาะ และหน้าผาหินเป็นต้น แม้แต่ลักษณะภูมิประเทศแบบหลุมกุมภลักษณ์ที่เป็นอันดับหนึ่งของไต้หวัน
ชายฝั่งทะเลสือทีผิงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและฝูงปลาเขตร้อน แอ่งหินที่เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลงและหลุมกุมภลักษณ์ ที่เป็นแหล่งกำเนิดของสาหร่ายทะเล ปลา กุ้งและหอยต่างๆ สือทีผิงเป็นสถานที่ที่ใช้สังเกตระบบนิเวศวิทยาที่อุดมสมบูรณ์ในเขตน้ำขึ้นน้ำลง ตกปลาและดำน้ำที่ดีที่สุด
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพไปตามถนนวงแหวนรอบเขตชมวิว หรือขึ้นไปบนภูเขาด้านเดียวที่มีความสูง 17 เมตร ไม่เพียงจะสามารถชมสภาพภูมิประเทศของสือทีผิงได้ทั้งหมด ยังสามารถชมทัศนียภาพอังกว้างใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิกได้อีกด้วย
อุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในพื้นที่ตั้งแคมป์ของสือทีผิงนั้นมีความเพียบพร้อม สามารถเลือกพักค้างคืน เดินเล่นชมจันทร์ หรือฟังเสียงคลื่น ดูดาว สัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่หาที่เปรียบมิได้

การเดินทาง โดยสารรถฮวาเหลียนบัสหรือรถติ่งตงบัสไปลงที่ “ป้ายสือทีผิง”
ศูนย์นักท่องเที่ยวตูลี่ (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านเผ่าอามิส)

ศูนย์นักท่องเที่ยวตูลี่ (ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านเผ่าอามิส)

“ที่ทำการเขตชมวิวแห่งชาติชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก” แม้ว่าที่ทำการฯ จะเป็นศูนย์ราชการ แต่ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยื่ยมเยือนเมื่อเดินทางมาเที่ยวที่นี่ โดยได้จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นเป็นพิเศษ ที่ภายในมีพื้นที่เผ่าอามิส พื้นที่มหาสมุทร จุดชมวิวชายฝั่งทะเลตะวันออก และพื้นที่ประการณ์โต้ตอบเป็นต้น ที่มีการโต้ตอบผ่านอุปกรณ์มัลติมีเดีย การจัดแสดงภาพยนตร์ แบบจำลองและสิ่งของจริง ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะพิเศษของพืชและสัตว์ มนุษย์และวัฒนธรรมและกิจกรรมนันทนาการในเขตแนวชายฝั่งทะเลตะวันออก
ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านเผ่าอามิส” ที่ตั้งอยู่ข้างอาคารที่ทำการเขตฯ มีเนื้อที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร รวมถึงลานเวทีแสดงกลางแจ้งและสแตนด์นั่งชมที่จุผู้ชมได้ถึง 2,000 คน
อาคารพิธีและบ้านที่เป็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญ จากภาพวาดลายมือจากการสำรวจอำเภอกวงฝู่ จังหวัดฮวาเหลียน ที่ Chijiiwa Suketaro นักชาติพันธุ์วิทยาชาวญี่ปุ่นวาดไว้เมื่อปี พ.ศ.2486 ที่ออกแบบตามแบบบ้านศาลเจ้า ที่หมู่บ้านไท่ปาหลาง จังหวัดฮวาเหลียน มาเยือนที่นี่ สามารถชมวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าอามิส
นอกจากสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกลักษณ์แล้ว ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านยังมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปวัตถุของหมู่บ้าน ผลงานศิลปหัตถกรรม ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง บริการอาหาร และการแสดงการเต้นรำแบบโบราณเป็นต้น เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับศึกษาวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของเผ่าอามิส

เวลาทำการ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ 9:00-17:00 (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง โดยสารรถฮวาเหลียนบัสหรือรถติ่งตงบัสไปลงที่ “ป้ายที่ทำการเขตชมวิวแห่งชาติชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก”
โดยสารรถไต้หวัน ทัวร์ริส ชัทเทิล สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ไปลงที่ “ป้ายศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านอามิส”
ตูหลาน

ตูหลาน

ตูหลานเป็นหมู่บ้านชนพื้นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ตั้งอยู่บนเขาตูหลานด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็น “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์” ของเผ่า ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ทางใจของประเพณีพื้นบ้าน ศิลปะและวัฒนธรรมเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังเป็นสถานที่เที่ยวชมป่าเขาลำนำไพรที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ หมู่บ้านชนเผ่าอามิสได้พยายามส่งเสริมวัฒนธรรมในชุมชน ทำให้มีการขับร้องและเต้นรำที่งดงามและไพเราะยิ่งขึ้น ผลงานศิลปหัตถกรรมที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และละเอียดอ่อน และยังคงอนุรักษ์อาหารการกินแบบชนเผ่าอามิสที่ให้ความแข็งแรงและน่าลิ้มรส
ในเขตตูหลานไม่เพียงแต่จะมี “ซากโบราณสถานตูหลาน” ซึ่งเป็นซากโบราณสถานที่จดทะเบียนระดับจังหวัด มีเขตน้ำขึ้นน้ำลงชายฝั่งทะเลและระบบนิเวศวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านชนเผ่าอามิส และยังมี “สายน้ำไหลสู่เบื้องบนที่น่ามหัศจรรย์” “โรงแรมแสงจันทร์” ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไต้หวัน “The Moon Also Rises” อ่าวที่สวยงาม “อ่าวเจียหมูจื่อวาน” ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมน้ำตาลแดง “โรงงานน้ำตาลซินตง” เป็นต้น ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้น ที่ทำการเขตชมวิวแห่งชาติชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้สร้างและบูรณะศาลาพักร้อนตามแนวถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ชมความงามของตูหลานในอีกมุมมองที่ต่างออกไป

ถ้ำพระจันทร์

ถ้ำพระจันทร์

ถ้ำพระจันทร์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นถ้ำบาดาลธรรมชาติ และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ในสายตาของชนพื้นเมืองในหมู่บ้านชนพื้นเมืองกั่งโข่ว ภายในถ้ำมีน้ำขังอยู่สูงประมาณ 5 เมตร ระดับน้ำจะสูงขึ้นและลดลงตามลักษณะของดวงจันทร์ ทำให้เรียกถ้ำนี้ว่า “ถ้ำพระจันทร์” หรือ “บ่อพระจันทร์”
ถ้ำพระจันทร์อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 80 เมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลประมาณ 800 เมตร ปากถ้ำมีความสูงประมาณ 25 เมตร ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 176 เมตร ภายในถ้ำแบ่งเป็นถ้ำเล็กสองถ้ำได้แก่ถ้ำด้านซ้ายและถ้ำด้านขวา ปากทางเข้าถ้ำทางด้านซ้ายมีขนาดใหญ่ดว่า มีความลึกประมาณ 50 เมตร ด้านบนมีลักษณะแหลมเล็ก เป็นที่อยู่ของค้างคาวนับพันนับหมื่นตัว ที่ยิ่งเพิ่มบรรยากาศอันลึกลับให้แก่ถ้ำแห่งนี้ ส่วนถ้ำทางด้านขวานั้นมีความยาวประมาณ 40 เมตร
ภายในถ้ำที่ดูลึกลับ สามารถพบเห็นร่องรอยของค้างคาวได้ทั่วไปบนผนังหิน มีธารน้ำใต้ดิน หินงอก ฟอสซิลรังนกและฟอสซิลปลาเป็นต้น ถ้าต้องการเข้าชมสำรวจความเร้นลับของถ้ำ จะต้องเดินทางโดยเรือเล็กที่มีนักพายที่เชี่ยวชาญ ติดตั้งไฟฉายบนเรือเพื่อส่องสว่าง อุณหภูมิภายในถ้ำประมาณ 20 องศา อากาศอบอุ่นในฤดูหนาว อากาศเย็นสบายในฤดูร้อน เป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ค่าบัตรผ่านประตู: บัตรผู้ใหญ่ 100 เหรียญไต้หวัน บัตรเด็กและผู้สูงอายุ 50 เหรียญไต้หวัน (รวมค่าเรือโดยสารและบริการบรรยายให้ความรู้ภายในถ้ำพระจันทร์)
การเดินทาง โดยสารรถฮวาเหลียนบัส ไปลงที่ “ป้ายถ้ำพระจันทร์”
โดยสารรถติ่งตงบัส ไปลงที่ “ป้ายสือทีผิง” แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
น้ำพุร้อนเฉายื่อ

น้ำพุร้อนเฉายื่อ

น้ำพุร้อนเฉายื่อ ตั้งอยู่ในเขตน้ำขึ้นน้ำลงตามแนวปะการังแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะกรีน มีภูมิประเทศแบบภูเขาหันหน้าสู่ทะเล ในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวันมีชื่อเรียกว่า “น้ำพุร้อนสวี้อุนเฉวียน” ด้วยน้ำพุร้อนที่ใสสะอาด มีอุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส เป็นน้ำพุร้อนซัลเฟตครอไลด์ที่เป็นกรดอ่อน แต่ไม่มีกลิ่นฉุนของกำมะถัน มีรสเค็มของน้ำทะเล อาบแล้วไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวและไม่ทำให้รู้สึกเหนียวตัวหรือแห้งกร้าน เป็นน้ำพุร้อนน้ำเค็มที่หาได้ยาก
น้ำพุร้อนเฉายื่อสามารถจุนักท่องเที่ยวได้ถึง 300 คน ภายในอาคารมีอุปกรณ์เครื่องนวดพลังน้ำ พื้นที่น้ำพุร้อนจัดทำเป็นสระสำหรับแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งรูปวงกลม 3 สระ นอกจากนี้ยังมีสระแช่น้ำพุร้อนแบบกึ่งกลางแจ้ง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในสระจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามระดับการขึ้นลงของน้ำทะเล จนกลายเป็นสระซาวน่าที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด มีอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ ที่นอกจากจะใช้แช่น้ำพุร้อนแล้วย ยังสามารถชมดาว ฟังเสียงคลื่น และชมพระอาทิตย์ขึ้น สัมผัสได้ถึงการเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนที่ไม่เหมือนใคร

เวลาทำการ ฤดูร้อน (มิถุนายน-กันยายน) ฤดูหนาว (ตุลาคม-เมษายน)
บัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่ 200 เหรียญไต้หวัน
บัตรเด็ก (สูงต่ำกว่า 120 ซม.) 100 เหรียญไต้หวัน
บัตรผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป) 100 เหรียญไต้หวัน
การเดินทาง โดยสารรถ ไต้หวัน ทัวร์ริส ชัทเทิล สายชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือรถฮวาเหลียนบัส รถติ่งต้งบัส ไปลงที่ “ป้ายท่าเรือประมงฟู่กั่ง” แล้วเดินต่อไปถึงท่าเรือประมงฟู่กั่ง ต่อด้วยเรือโดยสารไปลงที่เกาะกรีน
เกาะกรีน: โดยสารรถประจำทางวิ่งรอบเกาะ ไปลงที่ “ป้ายบ่อน้ำพุร้อนเฉายื่อ”
หินหมาจูกับเจ้าหญิงนิทรา

หินหมาจูกับเจ้าหญิงนิทรา

หินหมาจูกับหินเจ้าหญิงนิทรา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะกรีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะกรีน ถ้ามองจากไห่ชานผิง ก็จะมองเห็นหินเจ้าหญิงนิทรานอนหลับอย่างสงบอยู่กลางทะเล โดยมีหาดทรายสีขาวเป็นเรือนผม และหินหมาจูที่มีหูยาวก็นอนอย่างสงบนิ่งอยู่ไม่ไกลนัก ในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเป็นสีคราม น้ำทะเลก็สีคราม ก้อนเมฆสีขาว สีสันสวยงามราวกับภาพวาด ประกอบกับประติมากรรมหินที่แกะสลักโดยธรรมชาติ ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นเทพนิยายและจินตนาการ จากการมองหินหมาจูและหินเจ้าหญิงนิทราแบบไกลๆ ก็สามารถถ่ายภาพที่สนุกด้วยการอาศัย “การจัดตำแหน่งมุมกล้อง”

Top